Blog

  • เบื้องหลังการลาออก: ‘เบบี๋’ ยอมรับว่าไม่ทราบรายละเอียดสัญญา – ความผิดพลาดที่เกิดจากความประมาท

    เบื้องหลังการลาออก: ‘เบบี๋’ ยอมรับว่าไม่ทราบรายละเอียดสัญญา – ความผิดพลาดที่เกิดจากความประมาท

    เจาะลึกถึงความผิดพลาดในขั้นตอนเข้าร่วมประกวด ซึ่งเบบี๋ยอมรับด้วยตนเองว่าเธอ ไม่ได้อ่านหรือทำความเข้าใจข้อกำหนดในสัญญา ของกองประกวดอย่างถี่ถ้วน โดยเฉพาะข้อห้ามที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ภาพและวิดีโอไม่เหมาะสม การขาดความรอบคอบในขั้นตอนนี้ถูกมองว่าเป็น สาเหตุสำคัญ ที่ทำให้เธอไม่สามารถโต้แย้งการปลดตำแหน่งได้อย่างมีน้ำหนัก และเป็นการตอกย้ำให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมเวทีต่าง ๆ ควรศึกษา เงื่อนไขและข้อผูกพัน ต่าง ๆ อย่างละเอียด เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมาจากอดีตหรือพฤติกรรมส่วนตัว

     

  • รีวิว Marshall Heston 120 Soundbar: สุดยอดพลังเสียงทีวีจากตำนานร็อกแอนด์โรล

    รีวิว Marshall Heston 120 Soundbar: สุดยอดพลังเสียงทีวีจากตำนานร็อกแอนด์โรล

    arshall บริษัทผู้ผลิตแอมป์กีตาร์ในตำนานจากสหราชอาณาจักร ได้ก้าวเข้าสู่ตลาดเครื่องเสียงสำหรับทีวีเป็นครั้งแรกด้วย Marshall Heston 120 ซึ่งเป็น Soundbar ที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos และ DTS:X

    Heston 120 มาพร้อมขนาดที่ใหญ่ ดีไซน์ที่โดดเด่น และราคาสูงกว่าคู่แข่งในตลาด Soundbar อย่าง Sony, Bose และ Sonos ซึ่งหมายความว่า Heston 120 ต้องมอบประสบการณ์โฮมเธียเตอร์ที่ทรงพลังเพื่อพิสูจน์ตัวเอง และผลลัพธ์ก็คือ มันทำได้ดีเกินคาด! แม้จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่หากคุณกำลังมองหาลำโพงทีวีที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพสูง Heston 120 คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม

    จุดเด่น (The Good) จุดที่ควรทราบ (The Bad)
    ดีไซน์ Marshall สุดคลาสสิกและโดดเด่น ราคาสูงกว่าคู่แข่ง
    มีพอร์ต HDMI Input และ Subwoofer Output แบบมีสาย ดีไซน์อาจไม่ถูกใจทุกคน
    เสียงทรงพลังและดื่มด่ำ ทั้งหนังและเพลง ไม่สามารถปรับระดับแต่ละ Channel หรือ Spatial Audio แยกกันได้
    รองรับการสตรีมมิ่งคุณภาพสูงยอดเยี่ยม ประสิทธิภาพ DTS:X ไม่สม่ำเสมอ

     

    1. ดีไซน์: แอมป์กีตาร์ที่กลายเป็น Soundbar

     

    Marshall ได้ถ่ายทอดมรดกจากแอมป์กีตาร์มาสู่ Heston 120 ได้อย่างแท้จริง Soundbar รุ่นนี้จึงเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงสำหรับบ้านที่มี รูปลักษณ์แบบ Marshall แท้จริงที่สุด

    • เอกลักษณ์เฉพาะตัว: ตัวเครื่องสีดำหุ้มด้วยวัสดุคล้ายหนัง, ตะแกรงผ้าลาย “เกลือและพริกไทย” ที่เป็นเครื่องหมายการค้า (Marshall เรียกมันว่า ‘fret’) และที่สำคัญคือ โลโก้ Marshall สีทองอันโดดเด่น Heston 120 จึงไม่ใช่แค่ Soundbar แต่เป็น ของตกแต่งที่ดึงดูดสายตา
    • ปุ่มควบคุมด้านบน: จุดที่ดึงดูดที่สุดคือ ลูกบิดควบคุมสีทอง ด้านบนเครื่อง ซึ่งช่วยเสริมบรรยากาศแบบแอมป์กีตาร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ปุ่มหมุนเหล่านี้มีผิวสัมผัสที่ดี ให้การตอบสนองที่แม่นยำ และมีไฟ LED สีแดงล้อมรอบที่สวยงาม
    • ข้อจำกัดด้านการแสดงผล: ข้อเสียเดียวคือเมื่อคุณนั่งอยู่บนโซฟา ลูกบิดเหล่านี้จะมองไม่เห็น และ Heston 120 ไม่มีไฟแสดงผลด้านหน้า สำหรับแจ้งสถานะหรือระดับเสียง

     

    2. การเชื่อมต่อ: จัดเต็มกว่าคู่แข่ง

     

    ด้านหลังของ Heston 120 มีคอลเลกชันพอร์ตที่ครอบคลุมมากที่สุดในบรรดา Soundbar ราคาระดับนี้

    • HDMI Input: นอกจากพอร์ต HDMI-eARC มาตรฐานแล้ว ยังมี HDMI Input อีกหนึ่งช่อง (รองรับ HDMI 2.1, Dolby Vision, และ 4K/120Hz Passthrough) ซึ่งมีประโยชน์มากในการเพิ่มพอร์ต HDMI ให้กับทีวีของคุณ
    • ช่อง Subwoofer แบบมีสาย: นี่คือจุดที่โดดเด่นอย่างยิ่ง Soundbar แบรนด์ใหญ่อื่น ๆ มักจำกัดให้ใช้ซับวูฟเฟอร์ไร้สายที่ผลิตโดยแบรนด์นั้น ๆ เท่านั้น แต่ Heston 120 มี Subwoofer Output แบบ Mono ทำให้คุณสามารถต่อกับ ซับวูฟเฟอร์แบบมีสาย ยี่ห้อใดก็ได้
    • RCA Analog Input: เป็นสิ่งที่หาได้ยากใน Soundbar ทั่วไป ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อแหล่งกำเนิดเสียงอนาล็อกบริสุทธิ์ เช่น เครื่องเล่นแผ่นเสียง (Turntable) ได้อย่างง่ายดาย (หากมีปรีแอมป์)
    • การสตรีมมิ่งคุณภาพสูง: รองรับ Apple AirPlay, Google Cast, Tidal Connect และ Spotify Connect ทำให้ Heston สามารถเล่นเพลงจากทุกแหล่งที่มาด้วยความละเอียดสูง (สูงสุด 24-bit/96kHz)

     

    3. ประสิทธิภาพสำหรับภาพยนตร์และรายการทีวี

     

    Heston 120 มีตัวขับเสียง (Driver) 11 ตัว และแอมป์ 11 ตัว ซึ่งสามารถแข่งกับ Soundbar เรือธงอย่าง Sonos Arc Ultra ได้อย่างสูสีในด้านพลังเสียงดิบและความรู้สึก

    • พลังเสียงเบส: ซับวูฟเฟอร์ในตัว 2 ตัว สร้างเสียงต่ำได้ลึกถึง 40Hz มอบเสียงเบสที่แน่นหนาสำหรับทั้งภาพยนตร์และเพลง
    • ระบบ Spatial Audio: Heston 120 เป็นลำโพง Spatial Audio ที่มีความสามารถ ด้วยเสียง Dolby Atmos ที่ให้มิติความกว้าง ความลึก และความสูงที่ดีเยี่ยม เสียงบทสนทนาคมชัดในโหมด Movie และจะชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อใช้โหมด Voice
    • ข้อจำกัดการปรับแต่ง: ข้อเสียคือ Heston ขาดการควบคุมระดับแต่ละ Channel แยกกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Driver เสียงสูง ซึ่งหมายความว่าคุณต้องเปิดเสียง Soundbar ให้ดังพอสมควร (ประมาณ 75% ของระดับเสียง) เพื่อให้ได้ยินเสียงรอบทิศทางและเสียงสูงได้อย่างเต็มที่
    • DTS:X: แม้จะรองรับ แต่การถอดรหัส DTS:X ของ Heston มีขีดจำกัดมากกว่า Dolby Atmos

     

    4. ประสิทธิภาพสำหรับฟังเพลง: Soundbar ที่เหมาะกับคอเพลง

     

    Heston 120 เป็นหนึ่งใน Soundbar ที่หาได้ยากที่สามารถให้เสียงเพลงได้ดีเยี่ยมพอ ๆ กับการดูหนัง

    • โทนเสียงอบอุ่นและดังชัด: เมื่อใช้โหมด Music โทนเสียงจะค่อนข้างอบอุ่น และสามารถเปิดได้ดังมากโดยไม่มีการบิดเบือนของเสียง (Distortion)
    • เวทีเสียงกว้าง: แม้จะเล่นไฟล์สเตอริโอสองช่องสัญญาณ Heston ก็สร้างเวทีเสียงที่กว้างขวางและน่าประทับใจ ซึ่งเป็นผลมาจากการประมวลผลภายในของ Marshall
    • Dolby Atmos Music: หากคุณไม่เคยฟัง Dolby Atmos Music มาก่อน คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมเมื่อเล่นเพลงที่รองรับ
    • การจัดการ Volume: ข้อเสียเดียวคือคอนเทนต์ Atmos จะมีระดับเสียงที่เบากว่า เพลงสเตอริโอทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ทำให้คุณอาจต้องคอยปรับระดับเสียงขึ้นลงเมื่อสลับไปมาระหว่างรูปแบบเสียง

     

    สรุป: Marshall Heston 120 คุ้มค่าหรือไม่?

     

    คุ้มค่าอย่างแน่นอน เมื่อพิจารณาทั้งราคา ดีไซน์ ฟีเจอร์ และประสิทธิภาพ Heston 120 คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับระบบโฮมเธียเตอร์แบบลำโพงเดี่ยว

    แม้ว่าจะไม่แม่นยำหรือดื่มด่ำเท่า Sonos Arc Ultra สำหรับภาพยนตร์ แต่การรองรับ DTS:X, HDMI Input และ Subwoofer Output แบบมีสาย ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ ยืดหยุ่นกว่า และที่สำคัญที่สุดคือ เป็น ลำโพงสำหรับฟังเพลงที่เหนือกว่า ซึ่งรองรับโปรโตคอลการสตรีมแบบไร้สายคุณภาพสูงสุดอย่าง Google Cast

    หากคุณเป็นคนที่ชอบการตั้งค่าแล้วใช้งานได้เลย (Set-it-and-forget-it) และหลงใหลในดีไซน์แบบร็อกแอนด์โรลของ Marshall Soundbar ตัวนี้คือตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดในตลาดตอนนี้


    สเปคโดยสรุป (Just the Specs):

    คุณสมบัติ รายละเอียด
    ขนาด (นิ้ว) 43.3 x 5.7 x 3.0
    จำนวน Driver 11 ตัว (รวม Tweeters 2, Full-range 5, Mid-woofers 2, Subwoofers 2)
    Channels/Configuration 5.1.2
    พอร์ตเชื่อมต่อ HDMI eARC, HDMI IN (Pass through), RCA Stereo, RCA Mono (Sub Out), USB-C
    รูปแบบเสียงที่รองรับ Dolby Atmos, Dolby Digital, DTS-X
    ระบบเครือข่าย Bluetooth 5.3, Wi-Fi 6, Ethernet
    แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Apple AirPlay 2, Google Cast, Spotify Connect, Tidal Connect

    ดีไซน์แบบแอมป์กีตาร์ของ Marshall Heston 120 ดึงดูดคุณให้สนใจ Soundbar รุ่นนี้มากน้อยแค่ไหนครับ? หรือคุณให้ความสำคัญกับความแม่นยำของเสียงในการดูหนังมากกว่า?

  • รีวิว: START-073: MINAMO ZOMBIE: พิเศษฉลองครบรอบ 3 ปีเดบิวต์ AV

    รีวิว: START-073: MINAMO ZOMBIE: พิเศษฉลองครบรอบ 3 ปีเดบิวต์ AV

    เป็นช่วงเวลาที่เรื่องสยองขวัญกลับมาอีกครั้ง! ผมเคย รีวิว ภาพยนตร์โป๊ฝั่งตะวันตกธีมแวมไพร์เรื่อง Juicy Silver ไปแล้ว แต่มันเป็นหายนะ หวังว่า JAV ธีมซอมบี้เรื่องนี้จะดีกว่ามากนะครับ

    START-073 เป็นวิดีโอปี 2024 จากสตูดิโอ SOD Create และผู้กำกับ Tiger Kosakai ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อฉลอง ครบรอบ 3 ปี ของ MINAMO ในวงการ AV


     

    จุดเริ่มต้นและความสยองขวัญแบบครึ่งซีก

    วิดีโอเริ่มต้นด้วยภาพของ ห้าแยกชิบูย่า ในตอนกลางคืน นักเรียนหญิงคนหนึ่งเดินโซเซข้ามถนน เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเธอ แม้ว่าใบหน้าด้านหนึ่งจะดูปกติ แต่ใบหน้าอีกด้านกลับ ซีดเซียวและมีเส้นเลือดปูดโปน ไม่รู้ด้วยวิธีใด MINAMO กลายเป็น ซอมบี้ครึ่งตัว ไปแล้ว จากนั้นก็มีฉากเปิดตัวสไตล์ โทคุซัทสึ (Tokusatsu) ย้อนยุคที่ดูเกินจริงเพื่อสร้างบรรยากาศ ฉากระเบิดทำให้ผมนึกถึง RED-001 ซึ่งเป็นผลงานของผู้กำกับคนเดียวกัน

    เราเข้าสู่เนื้อหาหลักของภาพยนตร์ ด้วยภาพของ MINAMO และหญิงสาวอีกคน (ผมคิดว่าเป็น Yuzu) ที่ถูกใส่กุญแจมืออยู่ด้านหลังรถตู้ พวกเขาถูกพาไปยังห้องแล็บที่มี นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง Shijimi และผู้ช่วยของเธอ (น่าจะเป็น Chamu หรือ Econo Mii) ฉีดสารต้องสงสัยบางอย่างเข้าสู่ร่างกายของพวกเธอ


     

    การทรยศและบทเรียนที่โหดร้าย

    อย่างที่คุณอาจจะคาดเดา ทั้งคู่ถูกเปลี่ยนร่างเป็นซอมบี้ แม้ว่าในกรณีของ MINAMO ร่างกายเพียง ซีกเดียวเท่านั้น ที่กลายเป็นซอมบี้ ขณะที่เธอกำลังถูกขับออกจากห้องแล็บ ก็มีฉากย้อนอดีตเพื่ออธิบาย ปรากฏว่า แม่ของเธอ (Akakura Saki) ไปมีปัญหากับพวกคนร้าย และเพื่อไถ่โทษ เธอจึงเสนอให้ลูกสาวตัวเองแทน มีฉากที่ค่อนข้างสะเทือนใจที่ MINAMO ที่ไร้อารมณ์ถูก Charas Yoshimura Fumitaka หนึ่งในพวกคนร้ายมีเซ็กส์ด้วย

    กลับมาที่ปัจจุบัน คนขับรถบรรทุก (น่าจะเป็น Satō) ตัดสินใจที่จะเอาอวัยวะเพศของเขาใส่ปากซอมบี้ MINAMO ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ เพราะเธอ กัดมันขาด ออกมาเลย! แน่นอนว่าทั้งหมดเป็นของปลอม แต่ดูเหมือนเลือดปลอมจะกระเด็นเข้าตา MINAMO ด้วย น่าสงสารจริงๆ…


     

    การเผชิญหน้าบนท้องถนนและการสิ้นสุด

    จากนั้น MINAMO ก็เดินเตร็ดเตร่อยู่ตามถนนจนกระทั่ง Sugiura Bokkiy สังเกตเห็นเธอนอกบ้านและเชิญเธอเข้าไป เขาทำความสะอาดเลือดออกจากใบหน้าของเธอและแต่งตัวให้เธอเหมือนตุ๊กตา จากนั้นเขาก็มีเซ็กส์กับเธอ เธอตอบแทนความเมตตาของเขาด้วยการ กัดลิ้นของเขา เมื่อเขาพยายามจูบเธอ

    MINAMO กลับสู่ท้องถนนอีกครั้ง (ด้วยความผิดพลาดด้านความต่อเนื่อง เธอจึงกลับมาสวมชุดนักเรียนที่สะอาดหมดจด!) จนกระทั่งเธอถูกเชิญไปที่บ้านของชายหนุ่มรูปงาม Himori Hajime เขาเทเครื่องดื่มให้เธอแล้วก็มีเซ็กส์กับเธอ เขาหลั่งน้ำอสุจิใส่ร่างกายเธอ, จุ่มอวัยวะเพศในปากเธอ และพวกเขาก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป จบ! ผมเดาว่ารูปลักษณ์ที่ดีของเขาทำให้เธอตัดสินใจไว้ชีวิตอวัยวะเพศของเขา อย่างน้อยก็ในครั้งนี้

    หลังจากส่วนหลักของภาพยนตร์ มีคลิป เบื้องหลังความผิดพลาด สั้นๆ (ส่วนใหญ่เป็นฉากที่ MINAMO พยายามกลั้นหัวเราะ) และการสัมภาษณ์นักแสดงหลักเป็นเวลา 16 นาที

    MINAMO ZOMBIE (ครั้งนี้ผมจะสะกดชื่อเธอให้ถูก) เป็นวิดีโอที่ก้าวข้ามสิ่งที่คาดหวังจาก AV ทั่วไป MINAMO เป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมและ สมจริงมากในฐานะซอมบี้ การแต่งหน้าและสเปเชียลเอฟเฟกต์ทำได้ดีมาก มันอาจจะไม่ได้มีเจตนาให้เป็นหนังที่ยั่วยวนทางเพศ แต่ก็เป็น ประสบการณ์ที่สนุกสนานอย่างยิ่ง ที่ควรค่าแก่การดู และจำไว้ว่า: อย่ามีเซ็กส์กับซอมบี้!